Search

เป็นจีนหรือไม่จีน?: การค้นหาตัวตนและอนาคตของไต้หวั...

เป็นจีนหรือไม่จีน?: การค้นหาตัวตนและอนาคตของไต้หวัน

“ข้าพเจ้าเชื่อว่าเราไม่จำเป็นต้องประกาศแยกตัวเป็นเอกราช เพราะสถานะของไต้หวันถือเป็นรัฐเอกราชในตัวเองอยู่แล้ว”

นี่เป็นหนึ่งในบทสัมภาษณ์ที่เรียบง่ายแต่หนักแน่นของประธานาธิบดี ไช่อิงเหวิน ต่อผู้สื่อข่าวบีบีซี หลังกุมชัยชนะในการเลือกสมัยที่สอง แสดงให้เห็นถึงเจตนารมย์อันแน่วแน่ที่จะดำรงไว้ซึ่งความอิสระของสาธารณรัฐจีนหรือไต้หวันจากอิทธิพลของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ยื่นคำขาดให้ไต้หวันกลับมารวมกับแผ่นดินใหญ่ภายในปี 2049 หรือต้องเสี่ยงเผชิญหน้ากับการรุกรานทางทหาร

...แน่นอนว่านีไม่ใช่การกดดันทางการทูตครั้งแรกที่เกิดขึ้น หลังไต้หวันสูญเสียที่นั่งในสหประชาชาติเมื่อปี 1979 และการยอมรับใน “ข้อตกลงจีนเดียวปี 1992” อย่างไม่เต็มใจ…

นี่กลายเป็นคำถามในปัจจุบันว่า… ไต้หวันนั้นถือเป็นส่วนหนึ่งของจีนหรือไม่? และดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้จะจัดการกับสถานะความเป็นชาติที่ถูกนานาประเทศปฏิเสธได้อย่างไร?

เพื่อตอบคำถามเหล่านี้ ทาง The Wild Chronicles จะนำทุกท่านกลับไปสู่ห้วงเวลากว่า 72 ปีแห่งการพัฒนาชาติ ซึ่งเริ่มต้นจากการเคยตกเป็นอาณานิคมของฮอลลันดา, จีนยุคราชวงศ์, และญี่ปุ่น รวมถึงภัยคุกคามจากพรรคคอมมิวนิสต์และการปกครองอันกดขี่ของเผด็จการก๊กมินตั๋งนานกว่า 42 ปี (1945-1987) จนเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคประชาธิปไตยท่ามกลางการกดดันจากแผ่นดินใหญ่ ซึ่งผลักดันให้ไต้หวันต้องพัฒนาตนเองให้เป็นที่ยอมรับในสังคมโลก

อนึ่งบทความนี้เป็นตอนที่สามในซีรีย์ “ประวัติศาสตร์ไต้หวัน” หากผู้อ่านท่านใดต้องการจะทำความรู้จักจุดกำเนิดและช่วงเวลาที่สำคัญของไต้หวันสามารถติดตามจากบทความตอนที่ 1 “กำเนิดไต้หวัน” และตอนที่ 2 “ความน่าสะพรึงสีขาว” จากลิงค์ท้ายบทความได้เลยครับ

(อ่านบทความผ่านคำบรรยายภาพประกอบไปเรื่อยๆนะครับ)


Tags:

About author
สวัสดีครับ ผมชื่อ พงศ์ศรณ์ ภูมิวัฒน์ เป็นคนเขียนงานสารคดีชุด The Wild Chronicles ซึ่งจะพูดถึงเกร็ดประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ และการท่องเที่ยวไปในสถานที่แปลกๆ โดยมีปณิธานว่า อยากเอาเรื่องยากๆ มาอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ และเพื่อสิ่งนี้ผมได้เขียนหนังสือ และจัดทำทัวร์ เพื่อเผยแพร่ความรู้แปลกใหม่ให้กับผู้สนใจ ผมเชื่อว่าปัญหาหลายๆ อย่างของเราเกิดจากคนขาดความเข้าใจกัน ความไม่เข้าใจนั้นทำให้มีอคติ สำคัญว่าตนเองดีคนอื่น นำสู่ปัญหาการเหยียดผิว เหยียดเพศ เหยียดวรรณะ และการถูกชักจูงโดยผู้มีอำนาจ ผมจึงตั้งใจว่าจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการเอาเรื่องราวต่างๆ ที่ยากต่อการเข้าใจมาอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ โดยมุมมองที่พยายามให้เป็นกลางที่สุด เพื่อสื่อสารให้เกิดความเข้าใจ เพราะแท้จริงแล้ว ไม่มีใครเลวหรือดีไปกว่าใคร ทุกคนต่างเป็นมนุษย์ มีอารมณ์ มีความยึดมั่นถือมั่น มีปัญหา มีเป้าหมายแตกต่างกันออกไป ผมหวังว่าการเข้าใจผู้อื่นมากขึ้นนี้จะทำให้เราสามารถย้อนกลับมามองตัวเอง และทำความรู้จักกับตนเองได้ดียิ่งขึ้น
คุยเรื่องประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ และการท่องเที่ยวสถานที่แปลกๆ ของ ปั๊บ พงศ์ศรณ์
View all posts